This article has been translated from English to Thai.

สกุลเงิน เป็นรูปแบบของเงินที่ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือสินทรัพย์ทางการเงิน

สกุลเงินพวกนี้ออกโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลางและทำหน้าที่เป็นวิธีหลักในการอำนวยความสะดวกในด้านการค้าและพาณิชย์ทั้งภายในประเทศและข้ามพรมแดน

สกุลเงินมีหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ธนบัตร (เงินกระดาษ), เหรียญ, และเงินดิจิทัลหรืออิเล็กทรอนิกส์

หน้าที่ของสกุลเงิน

สกุลเงินมีหน้าที่หลักสามประการในเศรษฐกิจ:

  1. สื่อกลางในการแลกเปลี่ยน: สกุลเงินช่วยอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ โดยให้รูปแบบการชำระเงินที่เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย แทนที่ความจำเป็นในการแลกเปลี่ยนสินค้ากันโดยตรง ทำให้การทำธุรกรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  2. เครื่องมือในการเก็บรักษามูลค่า: พวกมันทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่สามารถเก็บรักษา นำกลับมาใช้ใหม่ และแลกเปลี่ยนได้ในภายหลังโดยไม่เสียมูลค่ามากนัก ตราบที่สกุลเงินยังคงมีเสถียรภาพ
  3. หน่วยนับ: สกุลเงินให้มาตรการร่วมในการประเมินมูลค่า ช่วยให้เปรียบเทียบราคาของสินค้าและบริการในเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น และช่วยให้การทำธุรกรรมทางการเงินและการประเมินมูลค่าของสินค้าต่างๆ ง่ายขึ้น

ประวัติของสกุลเงิน

ประวัติของสกุลเงินย้อนไปถึงหลายพันปี โดยมีรูปแบบของเงินที่พัฒนาไปตามกาลเวลา:

  1. ระบบแลกเปลี่ยนสินค้า: ในช่วงแรกคนแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการโดยตรงผ่านระบบแลกเปลี่ยนสินค้า ที่ต้องการความต้องการตรงกันสองฝ่าย
  2. เงินที่มาจากสินค้าโภคภัณฑ์: เมื่อสังคมเติบโตขึ้น ความต้องการวิธีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการแลกเปลี่ยนก็เกิดขึ้น ทำให้เกิดการใช้เงินที่มาจากสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น หอย ลูกปัด และเหรียญโลหะที่มีมูลค่าสูงหรือหายาก
  3. เหรียญโลหะ: เหรียญโลหะที่ได้มาตรฐานแรกถูกผลิตโดยชาวลิเดียประมาณ 600 ปีก่อนคริสตกาล ทำจากอิเลคตรัม ซึ่งเป็นโลหะผสมของทองคำและเงิน อารยธรรมอื่นๆ เช่น โรมันและจีนก็ได้ผลิตเหรียญของตนเองเช่นกัน
  4. เงินกระดาษ: ชาวจีนเป็นกลุ่มแรกที่ใช้เงินกระดาษในช่วงราชวงศ์ถัง (618-907 CE) การใช้เงินกระดาษนี้แพร่กระจายไปยังยุโรปและส่วนอื่นๆ ของโลกในภายหลัง
  5. ธนาคารกลางและสกุลเงินของชาติ: การจัดตั้งธนาคารกลางในศตวรรษที่ 17 ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของการออกสกุลเงินโดยรัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ ที่ก่อตั้งในปี 1694 เป็นหนึ่งในธนาคารแรกที่ออกธนบัตร
  6. เงินอิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัล: ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เงินอิเล็กทรอนิกส์และสกุลเงินดิจิทัลได้เกิดขึ้นเป็นรูปแบบการชำระเงินใหม่ โดยสกุลเงินดิจิทัลเช่น บิทคอยน์ ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยน

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (“ฟอเร็กซ์”) เป็นที่ที่ทำการแลกเปลี่ยนสกุลเงินและกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน

ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนรวมถึง ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ, เหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของธนาคารกลาง.

ตลาดเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีศูนย์การเงินหลักในลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว และซิดนีย์

การซื้อขายเงินตราทำเป็นคู่ เช่น EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ) หรือ USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)

อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามอุปสงค์และอุปทาน ทำให้นักค้า นักลงทุน และธุรกิจสามารถทำการเก็งกำไรจากสกุลเงิน การป้องกันความเสี่ยง และทำธุรกรรมระหว่างประเทศ

สรุป

สกุลเงินมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกด้านการค้า พาณิชย์ และการทำธุรกรรมทางการเงินทั่วโลก

การเข้าใจหน้าที่ของสกุลเงิน การพัฒนาทางประวัติศาสตร์ และพลวัตของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าในโลกของการเงินและเศรษฐศาสตร์นานาชาติ

เมื่อเทคโนโลยียังคงพัฒนาไป คาดว่าการเปลี่ยนแปลงในโลกของสกุลเงินก็จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อวิธีที่เราทำธุรกรรมและบริหารการเงิน