This article has been translated from English to Thai.

มาตรการรัดเข็มขัด เป็นคำที่มักจะได้ยินในบริบทของนโยบายการเงิน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีปัญหาหรือเกิดวิกฤติ

มาร่วมสำรวจแนวคิดของมาตรการรัดเข็มขัด การนำไปใช้ในฐานะมาตรการทางการเงิน และข้อดีข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นจากแนวทางนี้

มาตรการรัดเข็มขัดคืออะไร?

มาตรการรัดเข็มขัดเป็นแนวทางนโยบายทางเศรษฐกิจที่เน้นการลดการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลผ่านการลดค่าใช้จ่าย การเพิ่มภาษี หรือทั้งสองวิธีร่วมกัน

โดยทั่วไปจะนำมาใช้โดยรัฐบาลเพื่อตอบสนองต่อระดับหนี้สาธารณะที่สูงหรือในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

เป้าหมายหลักของมาตรการรัดเข็มขัดคือการทำให้การเงินของรัฐบาลมีเสถียรภาพ ลดความไม่สมดุลทางการเงิน และฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนในความสามารถของประเทศในการชำระหนี้

มาตรการรัดเข็มขัดในนโยบายการเงิน

นโยบายการเงินหมายถึงการตัดสินใจของรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีและการใช้จ่ายสาธารณะเพื่อมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจ

เมื่อรัฐบาลนำเอาแนวทางรัดเข็มขัดมาใช้ ก็จะพยายามลดการใช้จ่ายสาธารณะและ/หรือเพิ่มภาษีเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ

มาตรการรัดเข็มขัดที่พบบ่อยได้แก่:

  • การลดการใช้จ่ายสาธารณะ: รัฐบาลอาจลดการใช้จ่ายในบริการสาธารณะ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน โครงการสวัสดิการสังคม หรือเงินเดือนของพนักงานรัฐบาลเพื่อลดการขาดดุลงบประมาณ
  • การเพิ่มภาษี: รัฐบาลอาจเลือกที่จะเพิ่มภาษี เช่น ภาษีรายได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีนิติบุคคล เพื่อเพิ่มรายได้และอุดช่องโหว่ทางงบประมาณ
  • การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ: รัฐบาลอาจขายสินทรัพย์หรือกิจการของรัฐให้กับภาคเอกชนเพื่อลดการใช้จ่ายสาธารณะและสร้างรายได้
  • การปฏิรูปเงินบำนาญ: รัฐบาลอาจดำเนินการปฏิรูประบบบำนาญ เช่น การเพิ่มอายุเกษียณหรือการลดสวัสดิการ เพื่อให้ลดการใช้จ่ายสาธารณะทางบำนาญ

ในบริบทของนโยบายการเงิน มาตรการรัดเข็มขัดสามารถมองว่าเป็นแนวทางที่ หดตัว เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลและ/หรือการเพิ่มภาษีเพื่อให้เกิดการรวมเงินคลัง

ข้อดีของมาตรการรัดเข็มขัด

ผู้สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดให้เหตุผลว่ามันสามารถมีผลบวกต่อเศรษฐกิจได้หลายด้าน เช่น:

  1. ความยั่งยืนทางการเงิน: มาตรการรัดเข็มขัดสามารถช่วยรัฐบาลลดการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ, จึงทำให้การเงินมีเสถียรภาพและฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากนักลงทุน
  2. ต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลง: ด้วยการแสดงความรับผิดชอบทางการเงิน, รัฐบาลสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับพันธบัตรของตน, นำไปสู่ดอกเบี้ยที่ต่ำลงและต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง
  3. แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง: การลดการใช้จ่ายสาธารณะสามารถช่วยลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเฟ้อสูง
  4. ความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น: การรวมเงินคลังอาจกระตุ้นการปฏิรูปโครงสร้างที่สามารถเพิ่มผลผลิตและความสามารถในการแข่งขัน, นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ข้อเสียของมาตรการรัดเข็มขัด

นักวิจารณ์มาตรการรัดเข็มขัดชี้ไปยังข้อด้อยหลายประการ เช่น:

  1. การหดตัวทางเศรษฐกิจ: การลดการใช้จ่ายสาธารณะและการเพิ่มภาษีสามารถลดอุปสงค์รวม, นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงและอาจก่อหรือทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเลวร้ายลง
  2. การว่างงานที่สูงขึ้น: มาตรการรัดเข็มขัดอาจนำไปสู่การตกงานในภาครัฐและการเติบโตของภาคเอกชนที่ลดลง, ส่งผลให้อัตราการว่างงานสูงขึ้น
  3. ความไม่สงบในสังคม: การตัดค่าใช้จ่ายและการเพิ่มภาษีสามารถส่งผลกระทบอย่างไม่สมส่วนต่อประชากรที่เปราะบาง, นำไปสู่ความไม่สงบในสังคมและความไม่มั่นคงทางการเมือง
  4. ผลกระทบทางลบต่อบริการสาธารณะ: มาตรการรัดเข็มขัดอาจส่งผลให้คุณภาพและความพร้อมใช้งานของบริการสาธารณะลดลง, เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน

รัฐบาลอาจเลือกใช้มาตรการรัดเข็มขัดเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วยการคืนความยั่งยืนทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม, การดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดมักจะมีความขัดแย้งและอาจนำไปสู่การถกเถียงเรื่องประสิทธิภาพและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

นักวิจารณ์ให้เหตุผลว่ามาตรการรัดเข็มขัดสามารถทำให้การชะลอตัวทางเศรษฐกิจเลวร้ายลงได้โดยการลดอุปสงค์รวม เพิ่มความว่างงาน และขัดขวางการเติบโตทางเศรษฐกิจ

มันยังสามารถนำไปสู่การตัดบริการที่จำเป็นและทำให้ชีวิตยากขึ้นสำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำ

ในทางกลับกัน, ผู้สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวจำเป็นต้องมีเพื่อคืนระเบียบทางการเงิน ลดความเสี่ยงของวิกฤติหนี้อธิปไตย และสร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มั่นคงมากขึ้นสำหรับการเติบโตในระยะยาว

ยังไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของมาตรการรัดเข็มขัด

บางการศึกษาได้ค้นพบว่ามาตรการรัดเข็มขัดสามารถช่วยลดหนี้รัฐบาลและปรับปรุงการเติบโตทางเศรษฐกิจ, ในขณะที่บางแห่งได้พบว่ามันสามารถมีผลกระทบทางลบ, เช่น การเพิ่มการว่างงานและความยากจน